วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559
บรรยากาศในห้องเรียน
มาถึงอาจารย์ก็ทบทวนกิจกรรมครั้งที่แล้วว่ามีอะไรบ้าง แต่ละฐานได้ความรู้เกี่ยวกับอะไรอย่างไร สามารถนำไปบูรณาการกับวิชาใดได้บ้าง และอาจารย์บอกว่า ผลงานของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าหากจะให้เด็กไปสู่ความคิดสร้างครูมีส่วนสำคัญในการช่วยเด็กคือจะต้องเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้แก่เด็ก ฌเยครูมีอุปกรณ์ต่างๆมาให้เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆและสร้างสรรค์สื่อออกมาในรูปแบบที่หลากหลาย
หลังจากทวบทวนสร็จแล้วครูก็แจก กระดาษเอสี่ คนละใบแล้วจับกลุ่ม กลุ่มละ 10คนแล้วให้แต่ละคนวาดรูปทรง เรขาคณิตห้ามซ้ำกัน มาคนละ 1 รูป และให้แต่ละคนออกแบบวาดเป็นอะไรก็ได้โดยรูป
รูปทรงที่ดิฉันเลือกคือ ทรง หกเหลี่ยม
ต่อเติมความสร้างสรรค์เข้าไปเป็นหมู
ส่วนของเพื่อน รุปทรงสามเหลี่ยม
ต่อเติมความคิดสร้างสรรค์ไป เป็นปู
รูปทรง สี่เหลี่ยม
เพื่อนเติมควมสร้างสรรค์ไปเป็นทีวี โทรทัศน์
พอวาดเสร็จแล้วอาจารย์ก็ให้เอารูปไปติดที่กระดานทีละกลุ่ม
กลุ่มดิฉันเป็นกลุ่มแรก อาจารย์ก็ถามแต่ละใบไล่มาเรื่อยๆถามเกี่ยวกับสิ่งทีแล้ววาดต่อเติมจาก รูปทรงเลขาคณิต ว่าทำไมถึงวาดรูปนี้ ออกแบบมาจากอะไร การที่เราจะวาดหรือออกแบบได้นั้น ต้องออกแบบที่มาจากประสบการณ์เดิม สิ่งที่เคยเห็ยมาก่อน หรือสิ่งที่เราเห็นแต่คิดต่างจากนั้น และ การที่เราเชื่อมโยงสิ่งนั้นกับอารมณ์นั้นเอง
เช่น รูปดิฉันคือ หมุ จากรุปทรง 6 เหลี่ยม
ครูถามว่าทำไมวาดหมูในนี้ ดิฉันก็บอกว่าเคยเห็นมาสคอด ตามห้าม นี่คือสิ่งที่เคยเห็นมาก่อนและวาดตามความรู้สึกและต่างจากเดิมโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการวาดที่ต่างจากเคยเห็นเช่น หมวก เป็นต้น
จากนั้นนั้นอาจารย์ก็ให้นำกลับไปตัด และ ระบายสีให้สวยงาม
ระบายสี แล้ว ตัด เสร็จแล้วววว
จากนั้นนแปะใส่ในกระดาษ 100 ปอน
แล้วก็นำของแต่ละคนมารวมเป็นเล่มเดียวกัน
การนำไปใช้
การที่เรานำรูปทรงเลขาคณิตต่างๆมาออกแบบและเปิดโลกในตัวเองมากกว่าเดิมสามารถที่จำนำรูปทรงเหล่านี้มาเป็นสื่อในการเนรียนการสอน ในการบูรณาการได้หลากหลายวิชา ทั้ง คณิตศาสตร์ ศิลปะ วิทยาศาตร์ เป็นต้น และที่สำคัญในการเรียนการสอนนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือครูจะต้องยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
การประเมินผล
ประเมินตนเอง
เข้าห้องเรียนตรงเวลา มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างเต็มที่ มีส่วนร่วมในการร่วมตอบคำถาม
ประเมินเพื่อน
เพื่อนทุกคนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเต็มที่ และออกแบบงานได้หลายหลาย
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีความพร้อมก่อนเรียนทุกครั้ง ในเรื่องของการเรรียนการสอน และอุปกรณ์ที่ให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรม และอาจารย์ยังมีการทวนความรู้เกา่ามาเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่อีกด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559
บรรยากาศในห้องเรียน
เริ่มต้นจากการที่อาจารย์ถามเกี่ยวกับการคิดสร้างสรรค์คืออะไร มีอะไรบ้าง แต่ละอันมีความหมายว่าอย่างไร
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด ซึ่งเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้อย่างซับซ้อน กว้างไกล หลายทิศทาง หรือที่เรียกว่า คิดอเนกนัย (Divergent thinking) ซึ่งประกอบด้วย
1. ความคิดริเริ่ม (Originality)
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency)
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
4. ความคิดละเอียดลออ(Elaboration)
1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันกับความคิดของคนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
2.1 ความคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่ว
2.2 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่กำหนด
2.3 ความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expression Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ
2.4 ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดค้นสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิดแบ่งออกเป็น
3.1 ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ ตัวอย่างของคนที่มีความคิดยืดหยุ่นในด้านนี้จะคิดได้ว่าประโยชน์ของหนังสือพิมพ์มีอะไรบ้าง ความคิดของผู้ที่ยืดหยุ่นสามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน
3.2 ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะคิดดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน
4. ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน หรือเป็นแผนงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดละออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น
และท้ายที่สุด เมื่อคนเาเกิดความคิดที่หลายหลาก มีความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ต่างๆ โดยมีสิ่งเร้าในการกระตุ้นทำให้เกิดความคิดที่ค่อกัน เริ่มจาการคิดริเริ่ม คิดคล่องแคล่ว คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดอะออแล้วก็จะเกิดความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น
วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมมากกมายและหลากหลายที่เกี่ยวกับ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมศิลปะ
โดยมีกิจกรรมทั้งหมด 4 กิจกรรม จัดเป็นฐานๆ ให้นักศึกษาทำกิจกรรมแต่ละฐานวนกันไปจนครบทั้งหมด
โดยกิจกรรมที่ 1 ที่ดิฉันทำกิจกรรมคือ
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด ซึ่งเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้อย่างซับซ้อน กว้างไกล หลายทิศทาง หรือที่เรียกว่า คิดอเนกนัย (Divergent thinking) ซึ่งประกอบด้วย
1. ความคิดริเริ่ม (Originality)
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency)
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
4. ความคิดละเอียดลออ(Elaboration)
1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันกับความคิดของคนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
2.1 ความคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่ว
2.2 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่กำหนด
2.3 ความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expression Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ
2.4 ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดค้นสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิดแบ่งออกเป็น
3.1 ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ ตัวอย่างของคนที่มีความคิดยืดหยุ่นในด้านนี้จะคิดได้ว่าประโยชน์ของหนังสือพิมพ์มีอะไรบ้าง ความคิดของผู้ที่ยืดหยุ่นสามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน
3.2 ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะคิดดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน
4. ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน หรือเป็นแผนงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดละออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น
และท้ายที่สุด เมื่อคนเาเกิดความคิดที่หลายหลาก มีความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ต่างๆ โดยมีสิ่งเร้าในการกระตุ้นทำให้เกิดความคิดที่ค่อกัน เริ่มจาการคิดริเริ่ม คิดคล่องแคล่ว คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดอะออแล้วก็จะเกิดความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น
โดยมีกิจกรรมทั้งหมด 4 กิจกรรม จัดเป็นฐานๆ ให้นักศึกษาทำกิจกรรมแต่ละฐานวนกันไปจนครบทั้งหมด
โดยกิจกรรมที่ 1 ที่ดิฉันทำกิจกรรมคือ
กิจกรรม ทำผีเสื้อโดยใช้มือเรา
อุปกรณ์
- สีน้ำ
- สีเทียน
- กระดาษ เอสี่
- พู่กัน
- กรรไกร
- แม็ก
วิธีการทำ
นำสีทาที่มือเราให้ทั่วมือ ทั้ง 2 ข้าง
แล้ว จุ้ม ลงบนกระดาษให้เป็นรอยมือของเรา
แล้วรอให้สีแห้งจากนั้นตกแต่งปีกผีเสื้อให้สวยงาม แล้วตัดตามรอยจากนั้นก้ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงแล้วนำไปติดกับปีกทั้ง สองทั้ง
แต๊นนนนนน.................... นี่คือผีเสื้อน้อยๆของฉัน
กิจกรรม ประดิษฐ์แมลงน้อยจากแกนทิชชู
อุปกรณ์
แกนกระดาษทิชชู
เชือก
สี
กระดาษ
ที่เจาะรู
วิธีทำ
วาดรูปแมลงลงไปในกิจกรรมนี้เลือกทำผึ้ง จากนั้นระบายสีให้สวยงามจากนั้นตัดแกนกระดาษทิชชูครึ่งนึงแล้วเจาะรูทั้งหมด 4 รูแล้วนำเชือกรอยลงไปสลลับกันไปมาแล้วนำผึ้งมาติด กับแกนทิชชู แล้วดึงสลับไปขึ้นลงจะสามารถทำให้แมลงเลื่อนขึ้นลง เหมือนว่ากำลังบินอยู่ได้นั้นเอง
กิจกรรม เป่าสีฟองสบู่
อุปกรณ์
หลอด
สีที่ผสมสบู่หรือน้ำยาล้างจาน
กระดาษ
วิธีการทำ เป่าสีลงกระดาษตัวเองตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง นำไปบูรณาการในวิชาวิทยาศาสตร์ได้ด้วย เรื่องแรงดันากาศ สสาร เป็นต้น
กิจกรรม ประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาสตร์ จากจานกระดาษ
อุปกรณ์
จานกระดาษ
สีเทียน
กรรไกร
กาว
เชือก
ไม้แหลม
วิธีการทำ
เลือกประดิษฐ์ งูที่สามารถขยับปากและขับตัวเลื่อยไปไปมาได้
ทำจานพับครึ่งแล้วเจาะรูตรงกลางเอากระดาษตัเป้็นท่อนๆดต่อกันเป็นตัวงูและเอาไม้แหลมหักเป็นซีกๆ เพื่อที่จะให้งูเลื่อยได้ ระบายสีตกแต่งให้สวยงาม
กิจกรรมนี้โดยครูกำหนดไว้ว่าห้ามทำซ้ำกัน ทำให้แต่ละความมีชิ้นงานที่หลายหลากและแตกต่างกันออกไป เพื่อให้นักศึกษาได้เกิดความคิดต่างๆและสร้างสรรค์ผลงานออกมา
มาดูผลงานทั้งหมดกัน
จากนั้นครูก็มาสรุปกิจกรรมที่ได้ทำกันไปว่าการที่ทำกิจกรรมที่ทำในวันนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอะไรได้บ้างบูรณาการกับวิชาใดและการที่เป็นครูที่ดี ต้องไม่ปิดกั้นความคิดเห็นของเด็ก รับฟังความคิดเห็น ยอมรับข้อแตกแต่งระหว่างเด็กแต่ละคน
การนำไปใช้
สามารถนำกิจกรรมต่างๆไปใช้ได้ในหน่วยต่างๆ เช่น หน่วยผีเสื้อ และสามารถบูรณาการได้หลากหลายวิชา เช่นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ เป็นต้น
การประเมินผล
ประเมินตนเอง
ตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ ให้ความร่วมมือแก่เพื่อนๆและครู
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆทุกคนตั้งใจทำกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการตอบคำถามต่างๆ
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีความพร้อมในการสอน และมีกิจกรรมที่หลายหลายมาให้นักศึกษาอยู่ตลอด
วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้มีกิจกรรม นำเสนอ STEM / STEAM ที่อาจารย์ให้นักศึกษาไปทำมา และ เลือกมา 1 กิจกรรมที่จะสอน โดยมีหน่วยทั้งหมด 5 หน่วย
1. หน่วยปลา
2.หน่วยยานพาหนะ
3.หน่วยข้าว
4.หน่วยไข่
5.หน่วยบ้าน
กลุ่มที่ 1 หน่วย ปลา
เพื่อนเลือกกิจกรรม สร้างบ่อปลา
STEM
Engineering
Math
Art
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
STEM
Engineering
Math
Art
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
มาดูแต่ละกลุ่มกันน
กลุ่มที่ 2 หน่วย ยานพาหนะ
เพื่อนเลือกกิจกรรม สร้างถนน
STEM
Engineering
Math
Art
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
STEM
Engineering
Math
Art
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
มาดูแต่ละกลุ่มกัน
กลุ่มที่ 3 หน่วยข้าว
กลุ่มดิฉันเลือกกิจกรรม ทำหุ่นไล่กา
STEM
Engineering
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
STEM
Engineering
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
มาดูผลงานแต่ละกลุ่มกัน
มาดูหุ่นไล่กาแต่ละคนมารวมกัน
และมีเพื่นอีกกลุ่มที่ทำกิจกรรม หน่วยข้าว เหมือนกัน แต่เพื่อนจะเป็นกิจกรรมวาดรูป นาข้าว
กลุ่มที่ 4 หน่วยข้าว
STEM
Engineering
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
Engineering
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
กลุ่มที่ 5 หน่วยไข่
เพื่อนเลือกกิจกรรม ไข่นาโมตามี้
STEM
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
STEM
Math
Art
Science
บรรยากาศในห้องขณะทำกิจกรรม
กลุ่มที่ 6 หน่วย บ้าน
การนำไปใช้
ได้รู้จักการจัดกิจกรรม STEM STEAM ในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย ในหน่วยต่างๆ และนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
การประเมิน
ประเมินตนเอง
ตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆ ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ นำเสนองานของตัวเองได้ดี และมีความรับผิดชอบในงานที่ทำ
ปรเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจทำ และรับผิดชอบงานของตนเอง และให้ความร่วมมือกิจกรรมต่างๆเต็มที่
ประเมินอาจารย์
อาจารย์น่ารักมากๆ มีกิจกรรมที่หลากหลายในการสอนนักศึกษา เปิดโอกาศให้นักศึกษาได้ลงมือสอนและปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาจารย์คอยดูอยู่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)